ใบงานสัปดาห์ ที่ 12


สัปดาห์ ที่ 12
1. ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นระหว่างรูปดอกบัวกับรูปเพชร 




อัญมณีมีหลากหลายชนิดไม่ใช่เพียงแค่จะมีแต่เพชรเท่านั้น แต่ก็เป็นเรื่องจริงว่าเพชรนั้นสวยงามที่สุดในบรรดาอัญมณีทั้งหลาย และถ้าบอกว่าเพชรเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ชื่อดังที่สุดก็คงไม่มีใครปฏิเสธได้ เพราะเพชรนั้นมีความสวยงามและลึกลับอย่างหาที่เปรียบได้ยากเหลือเกิน แต่ใครจะรู้บางว่าเพชรเองก็ประวัติที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน นักปราชญ์ชาวกรีกยุคโรมันโบราณอย่างเพลโตเชื่อว่าเพชรมีชีวิต แหวนเพชรเม็ดใหญ่ๆ ในสมัยนั้นชาวยุโรปเชื่อกันว่ามันมีความศักดิ์อยู่ในตัว เป็นดั่งที่สักการบูชาโดยทั่วไปของชาวกรีกโรมัน ดั่งที่มีการให้นิยามของ เพชรว่าคือสิ่งที่ไม่อาจเอาชนะได้ ชาวกรีกโรมันจึงเชื่อว่าเพชรคือหยาดน้ำตาของเทพเจ้า ซึ่งสามารถชนะได้ทุกสิ่งทำให้ผู้ที่ไปรบหรือทำศึกสงครามสามารถเอาชนะข้าศึกได้โดยง่าย จึงได้มีการให้ความหมายของเพชรผ่านคุณสมบัติของมันว่าคือพลังอันมากล้นจนชนะข้าศึกได้อย่างไร้พ่าย เปรียบกับการศึกษา เพชรเปรียบเสมือนเด็กที่มีคุณค่าและความงามในตัว ที่ครูผู้สอนมีหน้าที่อบรมขัดเกลาเพียรพยามที่จะเจียระไนให้เพชรแต่ละเม็ด เปล่งประกายและสวยงามในแบบของมัน

ความหมายดีๆ ของ "ดอกบัวในศาสนาพุทธ"
ดอกบัวของศาสนาพุทธแทนความบริสุทธิ์ จิตใจที่ผ่องแผ้วสดใสไม่หมองมัว และความศรัทธา ทั้งยังหมายถึงการตรัสรู้บรรลุธรรมเมื่อเปรียบกับดอกบัวที่เคยอยู่ใต้โคลนตมได้โผล่พ้นน้ำออกมาเบ่งบานรับแสงตะวันในที่สุด
นอกจากนี้ดอกบัวสีต่าง ๆ ยังแทนความหายที่แตกต่างกันออกไปได้ด้วย ดังนี้
ดอกบัวสีน้ำเงิน แทนชัยชนะที่จิตและปัญญามีเหนือกิเลส
ดอกบัวสีขาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ จิตใจที่สงบ ผ่องแผ้วสดใส
ดอกบัวสีม่วง โดยปกติสีม่วงสื่อถึงความลึกลับ สำหรับดอกบัวสีนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่สื่อความหมายถึงความลึกซึ้งของพุทธศาสนา ทั้งกลีบทั้งแปดของบัวสีม่วง ยังแทนมรรค 8 หนทางอันจะนำไปสู่การดับทุกข์ทั้งปวงนั่นเอง
ดอกบัวสีชมพู จัดเป็นบัวที่ประเสริฐสุด และนับเป็นดอกบัวซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า
ดอกบัวสีแดง สีแดงมีความหมายเกี่ยวเนื่องกับใจ ดอกบัวสีแดงจึงสื่อความหมายถึงใจที่มีความรักและความเห็นแก่เห็นใจต่อผู้อื่น

บัว 4 เหล่า-หมายถึง บุคคล 4 ประเภท หรือ 4 กลุ่ม แยกตามระดับในทางธรรม ดังนี้
1. บัวก้นบึง-คือ บุคคลที่เปรียบเสมือนบัวก้นบึง ยังคงเป็นเหง้า เป็นหัว จมอยู่ในโคลนตม รอคอยเวลาที่จะแตกเหง้า แตกหัว แตกหน่อเป็นต้นบัวอีกนานมาก และมีโอกาสที่จะเป็นอาหารแก่เต่าปลา ยากที่จะเติบโตเป็นต้นบัวต่อไปได้
2. บัวใต้นำ-หมายถึง บุคคลที่ยังดี ค่อยยังชั่วกว่าประเภทบัวก้นบึงอยู่บ้าง จมอยู่ใต้น้ำ รอวันเวลาเติบโต โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในโอกาสต่อไป พวกนี้ยังพอมีศีลอยู่บ้าง เป็นบางข้อ ดีบ้างชั่วบ้างปะปนสลับกันไป ถ้าพวกนี้มีโอกาสพบครูบาอาจารย์ หรือกัลยาณมิตรที่ดี แนะนำให้คำปรึกษา เขาก็มีโอกาสพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ต่อไป
3. บัวปริ่มน้ำ-หมายถึง บุคคลที่มีศีลธรรมประจำใจพอสมควรแล้ว ศีล 5 อาจจะครบบ้างไม่ครบบ้าง มีโอกาสทำบุญทำทาน กุศลต่างๆบ่อยๆ แต่อาจจะยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติธรรม สมาธิภาวนา พวกนี้ถ้าได้พบผู้แนะนำที่ดี เขาก็สามารถพัฒนาจิตใจขึ้นไปเป็นกัลยาณชน-ผู้เจริญแล้วได้ไม่ยากเลย
4. บัวพ้นน้ำ-หมายถึง บุคคลที่มีศีลธรรมประจำใจครบถ้วนสมบูรณ์ อย่างน้อยก็มีศีล 5 ครบทุกข้อ มีความบริสุทธิ์ในจิตใจพอสมควร ปฏิบัติทั้งทาน-ศีล-ภาวนา หรือ ศีล-สมาธิ-ปัญญาครบถ้วนในองค์ 3 มีโอกาสบรรลุธรรม ถึงมรรค-ผล-นิพพานได้ไม่ยาก ถ้ามีความเพียรพยายามปฏิบัติต่อเนื่อง สม่ำเสมอไม่ท้อถอย




2. ให้อิสระในการเลือกภาพว่าชอบภาพไหนเพราะอะไรให้เหตุผล
ตอบ ชอบดอกบัว เพราะ ดอกบัวแทนความบริสุทธิ์ จิตใจที่ผ่องแผ้วสดใสไม่หมองมัว และความศรัทธา ทั้งยังหมายถึงการตรัสรู้บรรลุธรรมเมื่อเปรียบกับดอกบัวที่เคยอยู่ใต้โคลนตมได้โผล่พ้นน้ำออกมาเบ่งบานรับแสงตะวันในที่สุด