การประยุกต์ใช้สื่อให้เหมาะสมกับบริบทโรงเรียน
สื่อการเรียนการสอน คือ
เครื่องมือช่วยสอนที่สำคัญอย่างหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้
การเลือกใช้สื่อที่มีอยู่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม
จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจเนื้อหาความรู้ที่ผู้สอนต้องการสื่อได้รวดเร็วและดียิ่งขึ้น
แต่กลับกันการที่ครูเลือกใช้สื่อผิดประเภทหรือใช้อย่างไม่เหมาะสมก็อาจจะส่งผลเสียกับผู้เรียนได้เช่นเดียวกัน
มาดูกันว่าสื่อแบบไหนเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน
สื่อหรือนวัตกรรมการเรียนรู้ จำแนกออกมาเป็น 6
ประเภท ดังนี้ คือ
1.
สื่อสิ่งพิมพ์
คือสิ่งที่เกิดจากการตีพิมพ์ออกมาเป็นใบงานหรือหนังสือ เช่น หนังสือเรียน
หนังสืออ่านเพิ่มเติม แบบฝึกกิจกรรม ใบงาน
ใบความรู้ วารสาร นิตยสาร หรือ หนังสือพิมพ์ เป็นต้น
2.
สื่อบุคคล
ตัวบุคคลที่มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ แนวคิด และวิธีปฏิบัติตนไปสู่ผู้เรียน
3.
สื่อวัสดุ เป็นสื่อที่มีสาระความรู้อยู่ในตัวเอง
สามารถจำแนกออกเป็น 2
ลักษณะ คือ
(1) วัสดุประเภทที่สามารถถ่ายทอดความรู้อยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วย เช่น รูปภาพ
หุ่นจำลอง เป็นต้น
(2) วัสดุประเภทที่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้โดยตนเองจำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์อื่นช่วย เช่น ฟิล์มภาพยนตร์ เทปบันทึกเสียง ซีดีรอม
แผ่นดิสก์ เป็นต้น
4.
สื่ออุปกรณ์
คือสื่อที่ใช้เป็นตัวกลาง ทำให้ข้อมูลหรือความรู้ที่บันทึกไว้ในวัสดุ
สามารถถ่ายทอดออกมาได้ เช่น
เครื่องฉายแผ่นโปร่งใส เครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องคอมพิวเตอร์
วิทยุ โทรทัศน์ เป็นต้น
5.
สื่อบริบท
เป็นสื่อที่เกิดขึ้นตามสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ภายในโรงเรียน ได้แก่ ห้องเรียนต่างๆ
พืชพรรณ รวมถึงสิ่งมีชีวิตที่สามารถพบเห็นได้ภายในโรงเรียน เป็นต้น
6.
สื่อกิจกรรม
เป็นกิจกรรมหรือกระบวนการที่จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียน
เช่น การแสดงละคร บทบาทสมมติ การสาธิต
สถานการณ์จำลอง การจัดนิทรรศการ
ทุกวันนี้
ถึงแม้ว่าแต่ละโรงเรียนจะได้รับการสนับสนุนสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ มากมาย
ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ สื่อวัสดุ อุปกรณ์ช่วยสอน สื่อวีดีทัศน์
คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต ตามสัดส่วนการเติบโตของแต่ละโรงเรียน
แต่ปัญหาในเรื่องของการใช้สื่อก็ยังคงมีให้พบเห็นอยู่โดยทั่วไป
ซึ่งปัญหาและอุปสรรคในการใช้สื่อนั้น สามารถจำแนกออกมาเป็นด้าน ๆ ได้ดังนี้
1.
ปัญหาด้านบุคลากร
คือ บุคลากรขาดความรู้ความเข้าใจในการผลิตสื่อ
ขาดประสบการณ์และความรู้ความชำนาญในการใช้สื่อนวัตกรรมทางการศึกษา
รวมถึงการไม่ส่งเสริมให้เกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
2.
ปัญหาด้านวัสดุ
อุปกรณ์และงบประมาณ คือ ขาดการสนับสนุนด้านงบประมาณ ในการจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ในการผลิตสื่อหรือนำสื่อมาประยุกต์ใช้กับการสอนต่าง
ๆ
3.
ปัญหาด้านสภาพแวดล้อม
คือ การที่สิ่งแวดล้อมเป็นอุปสรรคหรือไม่เหมาะต่อการใช้สื่อบางประเภท
หรือสื่อนวัตกรรมบางชนิด
ไม่เหมาะกับการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนในห้องเรียนที่มีจำนวนมาก
4.
ปัญหาด้านการเรียนการสอน
คือ ความแตกต่างของผู้เรียนส่งผล_ทำให้การใช้สื่อมีผลลัพธ์ที่หลากหลาย
มีทั้งสนใจและไม่สนใจ และสื่อหรือนวัตกรรมบางชนิดใช้เวลาในการใช้มากเกินไป
ไม่เหมาะสมกับการจัดเวลาเรียน
5.
ปัญหาด้านการวัดและประเมิน
คือ การขาดการวัดและประเมินผลการใช้สื่อ ทำให้ไม่สามารถหาได้ว่าสื่อหรือนวัตกรรมใด
มีผลต่อผู้เรียนอย่างไร
จากปัญหาที่พบจากการใช้สื่อโดยทั่วไปในแต่ละโรงเรียน
จะเห็นได้ว่าปัญหาในการใช้สื่อนั้น เกิดทั้งจากตัวผู้สอนและตัวผู้เรียน
รวมไปถึงสภาพโดยทั่วไปของแต่ละโรงเรียนด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมองว่า
เราควรที่จะประยุกตฺใช้สื่อให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละโรงเรียนให้มากขึ้น
เพื่อให้การใช้สื่อและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนเป็นไปได้อย่างเหมาะสม
ซึ่งหลักในการประยุกต์ใช้สื่อตามบริบทของโรงเรียนในทัศนะของผมนั้น ผมมองว่า
ควรจะต้องพิจารณาถึงเรื่อง ดังต่อไปนี้
1.
สื่อหรือนวัตกรรมที่จะนำมาใช้นั้น
จะต้องมีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดในการเป็นสื่อที่ช่วยเหลือในการจัดการเรียนการสอน
มากกว่ารูปแบบการสอนแบบเดิมๆ เช่น
การใช้สื่อวีดีทัศน์นำเสนอเรื่องของการเติบโตของสัตว์ ซึ่งเป็นสื่อที่ดีกว่าการสอนตามหนังสือแบบเดิม
เป็นต้น
2.
สื่อหรือนวัตกรรมนั้น
ต้องมีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนและสภาพความเป็นอยู่ของผู้เรียน
ยกตัวอย่างเช่น การยกตัวอย่างการแล่นของรถไฟในการคำนวณความเร็ว
แต่ใช้กับผู้เรียนในพื้นที่ที่ไม่มีรถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งลักษณะนี้
นับว่าเป็นการเลือกใช้สื่อที่ไม่เหมาะสม
3.
ควรเลือกใช้สื่อหรือนวัตกรรมที่มีงานวิจัยหรือกรณีศึกษารองรับ
ในเรื่องของการนำมาใช้ได้ในสภาวการณ์ที่คล้ายคลึงกัน คือ
เมื่อใช้ในโรงเรียนหนึ่งแล้ว ไปใช้กับอีกโรงเรียนหนึ่ง
ก็ส่งผลให้ผู้เรียนทั้งโรงเรียนแรกและโรงเรียนที่สอง
มีความเข้าใจในเนื้อหาใกล้เคียงกัน
4.
สื่อและนวัตกรรมนั้น
ควรมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้เรียน เช่น
การหยิบยกข่าวหนังสือที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้เรียนเพื่ออธิบายถึงสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ
เป็นต้น
5.
ควรคำนึงถึงงบประมาณของแต่ละโรงเรียนในการเลือกซื้อหรือผลิตสื่อและนวัตกรรม
พยายามเลือกสรรสื่อโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก ไม่ควรให้สิ้นเปลืองมากจนเกินไป
ควรเลือกสื่อที่สามารถนำมาใช้ได้หลากหลาย มากกว่าสื่อที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว
6.
ในการใช้สื่อและนวัตกรรมต่างๆ
ผู้ใช้จำเป็นต้องศึกษาคู่มือการใช้หรือออกแบบวิธีการใช้ให้เหมาะสมก่อนนำมาใช้
เพื่อให้สามารถใช้สื่อได้มีประสิทธิภาพและไม่ให้เกิดความเสียหายกับตัวสื่อ
7.
ปัจจุบันควรเน้นการใช้สื่อเทคโนโลยีให้มากขึ้น
โดยสามารถใช้สื่อเทคโนโลยีมาทดแทนสื่อสิ้นเปลืองต่างๆ เช่น
ใช้การฉายภาพจากอินเตอร์เน็ต แทนการปริ้นรูปภาพลงบนกระดาษ
หรือการให้ผู้เรียนส่งงานทางอีเมลล์แทนการส่งรูปเล่มรายงาน เป็นต้น